ฝุ่น PM 2.5 กระทบผิวหนัง ผิวหน้า สุขภาพระยะยาว

PM 2.5 กระทบผิวหนัง ผิวหน้า หากไม่ดูแลสุขภาพแย่ตามมาแน่นอน !

รู้ไหมว่าจากรายงาน IQAir ปี 2565 ที่ผ่านมาเผยว่าในโลกนี้มีเพียง 13 ประเทศเท่านั้นที่คุณภาพอากาศจัดอยู่ในเกณฑ์ดี โดยมี 6 ประเทศ ออสเตรเลีย, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, เกรนาดา, ไอซ์แลนด์ และนิวซีแลนด์ กับอีก 7 ดินแดนในแปซิฟิกกับแคริบเบียนซึ่งรวมถึง เกาะกวมกับเปอร์โตริโก ที่มีคุณภาพอากาศ “ดี” หรือมี PM 2.5 เฉลี่ยไม่เกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ประเทศไทยติดอันดับ 57 อากาศแย่สุดในโลก มีค่ามลพิษทางอากาศเฉลี่ยอยู่ที่ 18.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพื้นที่กรุงเทพอยู่ที่ 25-30 ไมโครกรัม

.

ซึ่งหากร่างกายสะสมฝุ่น PM2.5 เป็นเวลานานจะส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว ดังนี้

👉🏻กระทบต่อระบบผิวหนัง เกิดปัญหาผื่นคัน ผื่นแพ้ และอาจก่อให้เกิดลมพิษ

👉🏻กระทบต่อผิวหน้า ทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่น แพ้ง่าย กระตุ้นให้เกิดริ้วรอยบริเวณร่องแก้มมากยิ่งขึ้น

👉🏻กระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเจ้าฝุ่นนี้จะไปกระตุ้นภูมิแพ้ โรคถุงลมโป่งพอง โรคหืด และทำให้เกิดปัญหาโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง และอันตรายถึงขั้นมะเร็งปอดได้

.

วิธีป้องกัน และหลักการดูแลสุขภาพจาก ฝุ่น PM 2.5

✅ป้องกันฝุ่น PM 2.5 ด้วยหน้ากากที่มีคุณภาพ อย่าเห็นแก่ของถูกหรือคิดว่าหน้ากากแบบไหนก็ใช้ได้เช่นกัน ยิ่งเป็นหน้ากากผ้าธรรมดา นั่นคือสิ่งที่ผิดมาก ต้องใช้หน้ากาก N95 หรือหากไม่มีอาจใช้หน้ากากอนามัยซ้อนกัน 2 ชั้น และควรสวมใส่ให้หน้ากากปิดแนบสนิทกับใบหน้า

✅ป้องกันฝุ่น PM 2.5 ด้วยการอยู่ในบ้านหรืออาคาร โดยปิดพื้นที่ให้มิดชิด ออกไปข้างนอกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

✅ป้องกันฝุ่น PM 2.5 ด้วยเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งควรมีแผ่นกรองที่มีคุณสมบัติในการกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ และควรเปิดแอร์หรือพัดลมควบคู่ไปกับการเปิดเครื่องกรองอากาศโดยจะต้องปิดอาคารหรือบ้านให้มิดชิด เพื่อไม่ให้อากาศภายนอกเข้ามา

✅ป้องกันฝุ่น PM 2.5 ด้วยการอาบน้ำ ด้วยสบู่วีแกน สบู่น้ำมันธรรมชาติ Bargar!ta™ (บาร์การิต้า) หลังจากที่ออกไปข้างนอก เพื่อชำระล้างเชื้อโรค และแบคทีเรียต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยถนอมผิว ให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น อย่างเป็นธรรมชาติ 💦